พิธีมอบตราสัญลักษณ์ SHA และ Sha Plus จ.กระบี่

พิธีมอบตราสัญลักษณ์ SHA และ Sha Plus จ.กระบี่

     วันที่ 16 ก.ค.64 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานด้านความสะอาดและปลอดภัย  SHA และ Sha Plus  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณโรงแรมมาริไทม์ ปาร์คแอนด์สปารีสอร์ทกระบี่ แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขาย ของที่ระลึก และอื่นๆ ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพด้านความสะอาดและปลอดภัยได้รับมาตรฐาน SHA และรองรับมาตรฐาน Sha Plus ของจังหวัดกระบี่ รายใหม่จำนวน 70 ราย  เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเยือนจังหวัดกระบี่ สื่อถึงจังหวัดกระบี่มีคุณภาพ สะอาดและปลอดภัย โดยนางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวรายงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วม
     ด้านพันตำรวจโท หม่อมหลวง กิติบดีประวิตร ผู้ว่าราชการจ.กระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดกระบี่ มีสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับมาตรฐาน SHA แล้ว 471 รายรองรับมาตรฐาน Sha Plus จำนวน 130 รายและขณะนี้จังหวัดกระบี่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวตามแผนเปิดประเทศของรัฐบาลตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไปได้แก่จัดทำและซักซ้อมแผน SOP ในพื้นที่นำร่องเกาะพีพี อ่าวไร่เลย์ เกาะไหง  และที่เกี่ยวข้อง พร้อมบุคลากร และประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับวัคซีนป้องกัน เชื้อcovid-19 ครบ 100% รวมทั้งการพัฒนาแรงงานด้านการท่องเที่ยว การฝึกอบรมอาสาสมัครกู้ภัยและให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จัดตั้งศูนย์บัญชาการพื้นที่นำร่องของจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีความพร้อมรับนักท่องเที่ยว เปิด Sand Box นำร่อง  เกาะพีพี อ่าวไร่เลย์  เกาะไหง ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวเดือนสิงหาคมนี้
     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากนโยบายที่ทางนายกรัฐมนตรี มีประกาศออกมาว่า พร้อมที่จะเปิดประเทศไทยภายใน 120 วันนั้น ทั้งนี้ทางนายกฯได้ขยายความต่อไปว่า ภายใน120 วัน สำหรับพื้นที่ ที่มีความพร้อมที่มีความปลอดภัย เพราะฉนั้นจ.กระบี่วันนี้ ในพื้นที่เกาะพีพี อ่าวไร่เลย์ เกาะไหง มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยว ซึ่งหนึ่งจังหวัดอาจไม่จำเป็นต้องเปิดรับนทท.ทั้งจังหวัด อาจจะเป็น หนึ่งตำบล หรือหนึ่งอำเภอ พื้นที่ไหนมีความพร้อม ก็เปิดพื้นที่ตรงนั้น สำคัญที่สุดพื้นที่ไหนที่มีความพร้อม ประชาชนในพื้นที่ต้องได้รับวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70 % ของคนในพื้นที่นั้นๆ

     วันที่ 16 ก.ค.64 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานด้านความสะอาดและปลอดภัย  SHA และ Sha Plus  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณโรงแรมมาริไทม์ ปาร์คแอนด์สปารีสอร์ทกระบี่ แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขาย ของที่ระลึก และอื่นๆ ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพด้านความสะอาดและปลอดภัยได้รับมาตรฐาน SHA และรองรับมาตรฐาน Sha Plus ของจังหวัดกระบี่ รายใหม่จำนวน 70 ราย  เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเยือนจังหวัดกระบี่ สื่อถึงจังหวัดกระบี่มีคุณภาพ สะอาดและปลอดภัย โดยนางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวรายงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วม
     ด้านพันตำรวจโท หม่อมหลวง กิติบดีประวิตร ผู้ว่าราชการจ.กระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดกระบี่ มีสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับมาตรฐาน SHA แล้ว 471 รายรองรับมาตรฐาน Sha Plus จำนวน 130 รายและขณะนี้จังหวัดกระบี่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวตามแผนเปิดประเทศของรัฐบาลตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไปได้แก่จัดทำและซักซ้อมแผน SOP ในพื้นที่นำร่องเกาะพีพี อ่าวไร่เลย์ เกาะไหง  และที่เกี่ยวข้อง พร้อมบุคลากร และประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับวัคซีนป้องกัน เชื้อcovid-19 ครบ 100% รวมทั้งการพัฒนาแรงงานด้านการท่องเที่ยว การฝึกอบรมอาสาสมัครกู้ภัยและให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จัดตั้งศูนย์บัญชาการพื้นที่นำร่องของจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีความพร้อมรับนักท่องเที่ยว เปิด Sand Box นำร่อง  เกาะพีพี อ่าวไร่เลย์  เกาะไหง ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวเดือนสิงหาคมนี้
     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากนโยบายที่ทางนายกรัฐมนตรี มีประกาศออกมาว่า พร้อมที่จะเปิดประเทศไทยภายใน 120 วันนั้น ทั้งนี้ทางนายกฯได้ขยายความต่อไปว่า ภายใน120 วัน สำหรับพื้นที่ ที่มีความพร้อมที่มีความปลอดภัย เพราะฉนั้นจ.กระบี่วันนี้ ในพื้นที่เกาะพีพี อ่าวไร่เลย์ เกาะไหง มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยว ซึ่งหนึ่งจังหวัดอาจไม่จำเป็นต้องเปิดรับนทท.ทั้งจังหวัด อาจจะเป็น หนึ่งตำบล หรือหนึ่งอำเภอ พื้นที่ไหนมีความพร้อม ก็เปิดพื้นที่ตรงนั้น สำคัญที่สุดพื้นที่ไหนที่มีความพร้อม ประชาชนในพื้นที่ต้องได้รับวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70 % ของคนในพื้นที่นั้นๆ